Thursday, 28 March 2013

ข้อแตกต่างระหว่าง LOL กับ DOTA #1

อย่างแรกเลยคือ ฮีโร่ใน League of Legends ไม่มี Strength, Agility, Intelligence แบ่งแยกสายแต่จะแบ่งแบบง่ายๆคือ

1. Attack Damage -- คือค่าความเสียหายจากการโจมตีธรรมดานั่นเองจะเรียกว่าความเสียหายทางกายภาพ = Physical Damage

2. Ability Power -- นั่นก็คือพลังเวทย์นั่นเอง ซึ่งฮีโร่ใน League of Legends จะใช้เวทมนต์ได้แรงขึ้นตามพลังเวทย์ที่ตัวเองมี ซึ่งต่างไปจาก DotA ที่มี Damage จากเวทมนต์คงตัว(แต่เพิ่มตามเลเวล)ตลอดทั้งเกม เวทมนต์จะทำความเสียหายที่เรียกว่า Magic Damage  (แต่ไม่จำเป็นที่ทุกสกิลต้องเป็น Magic)
   ตัวอย่างสกิลเช่น
ท่า Wild Cards ของฮีโร่ Twisted Fate ซึ่งกำหนดไว้ว่าความเสียหายคือ 60/110/160/210/260 ตามเลเวลสกิล + 65% Ability Power ที่เจ้าตัวมี ซึ่งก็จะเป็น Magic Damage



ในขณะเดียวกันท่า Piltlover Peacemaker ของฮีโร่ Caitlyn เป็นสกิลสร้างความเสียหายกับศัตรูดังนี้ 20/60/100/140/180 +1.3/Attack Damage  ซึ่งก็จะเป็น Physical Damage



ท่าอัลติเมท Noxian Guillotine ของฮีโร่ Darius สร้างความเสียหาย 160/250/340 +0.75/Attack Damage แต่ Damage ที่ทำนั้นเรียกว่าเป็นความเสียหายจริงหรือก็คือ True Damage ซึ่งจะหักจากพลังชีวิตจริงๆด้วยตัวเลขดังกล่าว ถึงแม้ว่าจะเป็นสกิลที่แรงขึ้นตาม Attack Damage ก็ตาม


ดังนั้นฮีโร่ใน League of Legends จึงแบ่งเป็นเพียงแค่ 2 สายคือ สายเวทย์กับสายตี เท่านั้น
ซึ่งจะเรียกย่อๆกันว่า AD & AP นั่นเอง ซึ่งในเกม League of Legends นั้นทั้งสองสายมีโอกาสเป็นสายเลทเกมได้ทั้งคู่

---------------------------------------------------------------------------------
TIPS
สิ่งที่ต้องพึงคิดเสมอคือ เกมที่คุณกำลังเล่นอยู่นั้น
1. ทีมของคุณมีลักษณะเป็น AD หรือ AP ซึ่งการเลือกฮีโร่ทั้้ง 5 ตัวของคุณสำคัญมากที่ควรจะมีทั้งฮีโร่สาย AP และ AD
2. คุณได้รับ damage จาก AP หรือ AD มากกว่ากัน สิ่งนี้ก็ดูได้จากสกิลฮีโร่ฝั่งตรงข้ามรวมถึงการซื้อไอเทมของเขาด้วย


ทำไมถึงต้องดู AP,AD?
Attack Damage  VS  Armor
Ability Power  VS  Magic Resist
True Damage  VS  Health
 สมมติว่าเราเล่นเจอกับทีมที่เป็น AD ทั้งทีม เราก็สามารถเลือกที่จะออกไอเทม Armor เยอะๆ ทำให้ลด Damage ฝั่งตรงข้ามไปโดยที่ไม่ต้องออกไอเทม Magic Resist เลย และจะเก็บช่องว่างใส่ไอเทมไปออกไอเทมอื่นๆที่ทำให้ตัวเราเองแข็งแกร่งขึ้นไปอีกได้ 
 ในทางกลับกันเพื่อกัน เราก็ไม่ควรเลือกทีมตัวเองที่เป็น AD จ๋าหรือ AP จ๋าเช่นกัน เราจึงควรเลือกฮีโร่ของเราให้สมดุล AD-AP Damage Balance  นั่นเอง

แน่นอนว่าหากรู้เขารู้เราแล้ว เราก็ย่อมที่จะรับมือและปราบข้าศึกได้แน่นอน

--------------------------------------------------------------------------------- 


No comments:

Post a Comment